Chapter 1 Information Systems in Global Business Today
บทที่ 1 นั้นเราจะมานำเสนอในเรื่องเกี่ยวกับ ระบบสารสนเทศในองค์กรธุรกิจ ณ ปัจจุบัน
ในปัจจุบันเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยๆ ซึ่งก็ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของการดำเนินธุรกิจเช่นเดียวกัน เช่น การค้าขายผ่านระบบอินเทอร์เน็ตที่มีมากขึ้นเรื่อยๆเหมือนกับเป็นนัยยะบอกว่าเป็นเวลาของการดำเนินธุรกิจแบบใหม่แล้ว ซึ่งเราทุกคนสามารถมองเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้ได้
การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่เกิดขึ้นมีผลกับการออกแบบองค์กรธุรกิจ เราสามารถให้คำจำกัดความของคำว่า “องค์กรดิจิตอล” ได้ว่า องค์กรดิจิตอลคือองค์กรที่ประกอบด้วยส่วนประกอบต่างๆ ที่มีความสัมพันธ์กับลูกค้า บริษัทและพนักงานจะต้องทำงานโดยการใช้ระบบดิจิตอลทั้งหมด
กระบวนการทางธุรกิจต้องมีการวางโครงสร้างและมีการประสานงานเป็นอย่างดี รวมทั้ง การพัฒนาสินค้าใหม่ๆ การสร้างแผนการตลาด การจ้างพนักงาน และวิธีการที่องค์กรจัดการเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ขององค์กรนั้นๆ
ระบบสารสนเทศประกอบด้วยข่าวสารที่เกี่ยวกับผู้คน สถานที่ และสิ่งของต่างๆ ที่มีอยู่ภายในองค์กรหรือภายในสิ่ง แวดล้อมขององค์กรนั้น คําว่า Information หมายถึงข้อมูลที่ได้รับการปรับแต่งให้อยู่ในรูปแบบที่มีความ หมายและเป็นประโยชน์ แต่ Data หมายถึงข้อเท็จจริง เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างระหว่างข่าวสารกับข้อมูลนะคะ ภาพนี้เป็นภาพที่จุดชำระสินค้าของซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่ง เป็นสถานที่ที่จัดเก็บ “ข้อมูล” นับล้านๆ เช่น หมายเลขสินค้าหรือราคาสินค้าแต่ละชนิดที่ลูกค้าซื้อ ไป ข้อมูลดังกล่าวสามารถที่จะนํามารวมเข้าด้วยกันและทําการวิเคราะห์เพื่อนําเสนอ “ข้อมูล” ที่เป็นประโยชน์มากยิ่งขึ้น เช่น จํานวนน้ํายาล้างจานที่ขายได้ ชื่อยี่ห้อของน้ํายาล้างจานที่ขายดีที่สุด หรือจํานวน เงินที่เก็บได้จากการขายน้ํายาล้างจานที่ร้าน
1.การนําเข้าข้อมูล (Input) จะทําการรวบรวมข้อมูลดิบที่มีอยู่ในองค์กรหรือจากสิ่งแวดล้อมภายนอก
2.การประมวลผล (Processing) ทําการเปลี่ยนแปลงข้อมูลดิบให้อยู่ในรูปแบบที่มีความหมายยิ่งขึ้น
3. การนําเสนอ ข้อมูลผลลัพธ์ (Output) ให้แก่ผู้ใช้
และอย่างสุดท้าย ระบบสารสนเทศจําเป็นต้องมี ข้อมูลป้อนกลับ (feedback) เพื่อช่วยให้เราสามารถข้อมูลตรงนี้ไปปรับปรุงระบบได้ดียิ่งขึ้น
โครงสร้างองค์กรประกอบด้วยหลายระดับและแต่ละตำแหน่งก็มีความสามารถที่แตกต่างกัน จากภาพจะเห็นถึงการแบ่งงานกันทําอย่างชัดเจนภายในองค์กร
- Senior managers ผู้บริหารระดับสูง เป็นบุคคลที่ทําการตัดสินใจในเรื่องของกลยุทธ์ขององค์กรในระยะยาว
- middle managers ผู้บริหารระดับกลาง นําโปรแกรมและแผนงานต่างๆ ไปดําเนิน งานให้เกิดผล
- Operational managers ผู้บริหารระดับปฏิบัติการ มีความรับผิดชอบในการตรวจงานในองค์กร
- Knowledge workers พนักงานที่มีความรู้สูง เช่น วิศวะ สถาปนิค เป็นต้น
- data workers เช่น เลขานุการ เป็นต้น
- Production or service workers พนักงานที่ทำหน้าที่ผลิตสินค้าหรือบริการ
การบริหารจัดการคือการบริหารงานให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆ การตัดสินใจ และการสร้างแผนการดําเนินงานเพื่อที่จะแก้ปัญหาขององค์กร ผู้บริหารจะต้องมีความเข้าใจจึงสามารถกําหนดกลยุทธ์ขององค์กรได้ ยิ่งไปกว่านั้นผู้บริหารจะต้องมีความรับผิดชอบและใช้ความเป็นผู้นําตลอดเวลา
เทคโนโลยีสารสนเทศ คือหนึ่งในเครื่องมือที่ผู้บริหารนํามาใช้ในองค์กร ซึ่งมี
- ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ คือเครื่องมือที่นํามาใช้สําหรับการป้อนข้อมูลเข้าสู่ระบบสารสนเทศ การประมวลผล และการนําเสนอผลลัพธ์
- ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ประกอบด้วยรายละเอียดของคําสั่งต่างๆ ใช้สําหรับการควบคุมและประสานงาน
- เทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูล
- คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์การสื่อสารที่เชื่อมโยงเข้าด้วยกันเป็นระบบเครือข่าย ไว้สําหรับการใช้งาน สัญญาณเสียง ข้อมูล ภาพ หรือวิดีทัศน์ร่วมกัน ระบบเครือข่ายจะเชื่อมโยง คอมพิวเตอร์สองเครื่องหรือมากกว่านี้เข้าด้วยกันเพื่อใช้งานข้อมูลและทรัพยากรต่างๆ เช่น เครื่องพิมพ์ร่วมกัน
- ระบบเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดและเป็นที่นิยมใช้งานมากที่สุดในโลกคือระบบอินเทอร์เน็ต ระบบอินเทอร์เน็ตเป็นระบบเครือข่าย ระหว่างประเทศที่ประกอบด้วยระบบเครือข่ายต่างๆ ทั้งที่เป็นระบบเครือข่ายสําหรับการค้าและระบบเครือข่ายสาธารณะ ระบบ อินเทอร์เน็ต เชื่อมโยงระบบเครือข่ายต่างๆ นับล้านๆ เครือข่ายเข้าด้วยกันที่กระจายอยู่ในมากกว่า 230 ประเทศทั่วโลก มีผู้คน ใช้งานระบบอินเทอร์เน็ตมากกว่า 1.4 ล้านคนที่ซึ่งทํางานทางด้านวิทยาศาสตร์ การศึกษา ทํางานให้รัฐบาล และงานธุรกิจทั่วไป คนเหล่านี้ใช้งานระบบอินเทอร์เน็ตร่วมกันเพื่อแลกเปลี่ยนข่าวสารหรือรายการธุรกรรมทางธุรกิจกับองค์กรธุรกิจอื่นๆ ทั่วโลก
- ระบบอินเทอร์เน็ตเป็นพื้นฐานของเทคโนโลยีแบบใหม่ ที่ซึ่งสามารถสร้างสินค้าใหม่ บริการใหม่ กลยุทธ์ใหม่ และรูปแบบทางธุรกิจใหม่ขึ้นมามากมาย พื้นฐานเทคโนโลยีใหม่นี้สามารถนํามาใช้ในระบบเครือข่ายภายในองค์กรเพื่อ นําเสนอการเชื่อมต่อเข้ากับหลายระบบและเครือข่ายต่างๆ ภายในองค์กร ระบบเครือข่ายภายในองค์กรนั้นเรียกว่า ระบบอินทราเน็ต (Intranets) แต่ถ้าเป็นภายนอกองค์กรนั้นเรียกว่า ระบบเอ็กซ์ทราเน็ต (Extranets) องค์กรทางธุรกิจนําระบบนี้ไปใช้ในการทำงานในองค์กรร่วมกับองค์กรธุรกิจอื่นๆ เพื่อการทําธุรกรรมการจัดซื้อสินค้า ร่วมมือกันออกแบบสินค้า เป็นต้น
- World Wide Web คือระบบมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในการจัดเก็บข้อมูล ข้อมูลถูกจัดเก็บจะถูกนํามาเสนอในรูปแบบของหน้าเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ เรียกว่า “pages” ที่ ซึ่งสามารถบรรจุข้อความ ภาพกราฟฟิกแบบนิ่ง ภาพกราฟฟิกแบบเคลื่อนไหว เสียง และวิดีโอ หน้าเอกสารอิเล็กทรอนิกส์หรือ เว็บเพจเหล่านี้สามารถที่จะเชื่อมโยงเข้าด้วยกันทางอิเล็กทรอนิกส์ไปยังเว็บเพจอื่นๆ ได้ไม่ว่าเว็บเพจนั้นจะถูกเก็บไว้ที่ใดก็ตาม
- เทคโนโลยีทั้งหมดที่ได้นำเสนอไปเมื่อสักครู่ ก็เปรียบเสมือนเป็นทรัพยากรต่างๆ ที่สามารถนํามาใช้งานร่วมกันทั่วทั้งองค์กรและประกอบขึ้นเป็น “ (information technology infrastructure)”เทคโนโลยีสารสนเทศที่เป็นโครงสร้างหลักขององค์กร ทําหน้าที่เป็นรากฐานที่สําคัญ (foundation or platform) ที่ซึ่งองค์กรธุรกิจสามารถสร้างระบบสารสนเทศของตนเองขึ้นมาใช้งานได้ แต่จะต้องให้ความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งในการออกแบบและบริหารจัดการ
ในปัจจุบันเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยๆ ซึ่งก็ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของการดำเนินธุรกิจเช่นเดียวกัน เช่น การค้าขายผ่านระบบอินเทอร์เน็ตที่มีมากขึ้นเรื่อยๆเหมือนกับเป็นนัยยะบอกว่าเป็นเวลาของการดำเนินธุรกิจแบบใหม่แล้ว ซึ่งเราทุกคนสามารถมองเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้ได้
การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่เกิดขึ้นมีผลกับการออกแบบองค์กรธุรกิจ เราสามารถให้คำจำกัดความของคำว่า “องค์กรดิจิตอล” ได้ว่า องค์กรดิจิตอลคือองค์กรที่ประกอบด้วยส่วนประกอบต่างๆ ที่มีความสัมพันธ์กับลูกค้า บริษัทและพนักงานจะต้องทำงานโดยการใช้ระบบดิจิตอลทั้งหมด
กระบวนการทางธุรกิจต้องมีการวางโครงสร้างและมีการประสานงานเป็นอย่างดี รวมทั้ง การพัฒนาสินค้าใหม่ๆ การสร้างแผนการตลาด การจ้างพนักงาน และวิธีการที่องค์กรจัดการเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ขององค์กรนั้นๆ
ระบบสารสนเทศประกอบด้วยข่าวสารที่เกี่ยวกับผู้คน สถานที่ และสิ่งของต่างๆ ที่มีอยู่ภายในองค์กรหรือภายในสิ่ง แวดล้อมขององค์กรนั้น คําว่า Information หมายถึงข้อมูลที่ได้รับการปรับแต่งให้อยู่ในรูปแบบที่มีความ หมายและเป็นประโยชน์ แต่ Data หมายถึงข้อเท็จจริง เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างระหว่างข่าวสารกับข้อมูลนะคะ ภาพนี้เป็นภาพที่จุดชำระสินค้าของซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่ง เป็นสถานที่ที่จัดเก็บ “ข้อมูล” นับล้านๆ เช่น หมายเลขสินค้าหรือราคาสินค้าแต่ละชนิดที่ลูกค้าซื้อ ไป ข้อมูลดังกล่าวสามารถที่จะนํามารวมเข้าด้วยกันและทําการวิเคราะห์เพื่อนําเสนอ “ข้อมูล” ที่เป็นประโยชน์มากยิ่งขึ้น เช่น จํานวนน้ํายาล้างจานที่ขายได้ ชื่อยี่ห้อของน้ํายาล้างจานที่ขายดีที่สุด หรือจํานวน เงินที่เก็บได้จากการขายน้ํายาล้างจานที่ร้าน
1.การนําเข้าข้อมูล (Input) จะทําการรวบรวมข้อมูลดิบที่มีอยู่ในองค์กรหรือจากสิ่งแวดล้อมภายนอก
2.การประมวลผล (Processing) ทําการเปลี่ยนแปลงข้อมูลดิบให้อยู่ในรูปแบบที่มีความหมายยิ่งขึ้น
3. การนําเสนอ ข้อมูลผลลัพธ์ (Output) ให้แก่ผู้ใช้
และอย่างสุดท้าย ระบบสารสนเทศจําเป็นต้องมี ข้อมูลป้อนกลับ (feedback) เพื่อช่วยให้เราสามารถข้อมูลตรงนี้ไปปรับปรุงระบบได้ดียิ่งขึ้น
โครงสร้างองค์กรประกอบด้วยหลายระดับและแต่ละตำแหน่งก็มีความสามารถที่แตกต่างกัน จากภาพจะเห็นถึงการแบ่งงานกันทําอย่างชัดเจนภายในองค์กร
- Senior managers ผู้บริหารระดับสูง เป็นบุคคลที่ทําการตัดสินใจในเรื่องของกลยุทธ์ขององค์กรในระยะยาว
- middle managers ผู้บริหารระดับกลาง นําโปรแกรมและแผนงานต่างๆ ไปดําเนิน งานให้เกิดผล
- Operational managers ผู้บริหารระดับปฏิบัติการ มีความรับผิดชอบในการตรวจงานในองค์กร
- Knowledge workers พนักงานที่มีความรู้สูง เช่น วิศวะ สถาปนิค เป็นต้น
- data workers เช่น เลขานุการ เป็นต้น
- Production or service workers พนักงานที่ทำหน้าที่ผลิตสินค้าหรือบริการ
การบริหารจัดการคือการบริหารงานให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆ การตัดสินใจ และการสร้างแผนการดําเนินงานเพื่อที่จะแก้ปัญหาขององค์กร ผู้บริหารจะต้องมีความเข้าใจจึงสามารถกําหนดกลยุทธ์ขององค์กรได้ ยิ่งไปกว่านั้นผู้บริหารจะต้องมีความรับผิดชอบและใช้ความเป็นผู้นําตลอดเวลา
เทคโนโลยีสารสนเทศ คือหนึ่งในเครื่องมือที่ผู้บริหารนํามาใช้ในองค์กร ซึ่งมี
- ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ คือเครื่องมือที่นํามาใช้สําหรับการป้อนข้อมูลเข้าสู่ระบบสารสนเทศ การประมวลผล และการนําเสนอผลลัพธ์
- ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ประกอบด้วยรายละเอียดของคําสั่งต่างๆ ใช้สําหรับการควบคุมและประสานงาน
- เทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูล
- คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์การสื่อสารที่เชื่อมโยงเข้าด้วยกันเป็นระบบเครือข่าย ไว้สําหรับการใช้งาน สัญญาณเสียง ข้อมูล ภาพ หรือวิดีทัศน์ร่วมกัน ระบบเครือข่ายจะเชื่อมโยง คอมพิวเตอร์สองเครื่องหรือมากกว่านี้เข้าด้วยกันเพื่อใช้งานข้อมูลและทรัพยากรต่างๆ เช่น เครื่องพิมพ์ร่วมกัน
- ระบบเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดและเป็นที่นิยมใช้งานมากที่สุดในโลกคือระบบอินเทอร์เน็ต ระบบอินเทอร์เน็ตเป็นระบบเครือข่าย ระหว่างประเทศที่ประกอบด้วยระบบเครือข่ายต่างๆ ทั้งที่เป็นระบบเครือข่ายสําหรับการค้าและระบบเครือข่ายสาธารณะ ระบบ อินเทอร์เน็ต เชื่อมโยงระบบเครือข่ายต่างๆ นับล้านๆ เครือข่ายเข้าด้วยกันที่กระจายอยู่ในมากกว่า 230 ประเทศทั่วโลก มีผู้คน ใช้งานระบบอินเทอร์เน็ตมากกว่า 1.4 ล้านคนที่ซึ่งทํางานทางด้านวิทยาศาสตร์ การศึกษา ทํางานให้รัฐบาล และงานธุรกิจทั่วไป คนเหล่านี้ใช้งานระบบอินเทอร์เน็ตร่วมกันเพื่อแลกเปลี่ยนข่าวสารหรือรายการธุรกรรมทางธุรกิจกับองค์กรธุรกิจอื่นๆ ทั่วโลก
- ระบบอินเทอร์เน็ตเป็นพื้นฐานของเทคโนโลยีแบบใหม่ ที่ซึ่งสามารถสร้างสินค้าใหม่ บริการใหม่ กลยุทธ์ใหม่ และรูปแบบทางธุรกิจใหม่ขึ้นมามากมาย พื้นฐานเทคโนโลยีใหม่นี้สามารถนํามาใช้ในระบบเครือข่ายภายในองค์กรเพื่อ นําเสนอการเชื่อมต่อเข้ากับหลายระบบและเครือข่ายต่างๆ ภายในองค์กร ระบบเครือข่ายภายในองค์กรนั้นเรียกว่า ระบบอินทราเน็ต (Intranets) แต่ถ้าเป็นภายนอกองค์กรนั้นเรียกว่า ระบบเอ็กซ์ทราเน็ต (Extranets) องค์กรทางธุรกิจนําระบบนี้ไปใช้ในการทำงานในองค์กรร่วมกับองค์กรธุรกิจอื่นๆ เพื่อการทําธุรกรรมการจัดซื้อสินค้า ร่วมมือกันออกแบบสินค้า เป็นต้น
- World Wide Web คือระบบมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในการจัดเก็บข้อมูล ข้อมูลถูกจัดเก็บจะถูกนํามาเสนอในรูปแบบของหน้าเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ เรียกว่า “pages” ที่ ซึ่งสามารถบรรจุข้อความ ภาพกราฟฟิกแบบนิ่ง ภาพกราฟฟิกแบบเคลื่อนไหว เสียง และวิดีโอ หน้าเอกสารอิเล็กทรอนิกส์หรือ เว็บเพจเหล่านี้สามารถที่จะเชื่อมโยงเข้าด้วยกันทางอิเล็กทรอนิกส์ไปยังเว็บเพจอื่นๆ ได้ไม่ว่าเว็บเพจนั้นจะถูกเก็บไว้ที่ใดก็ตาม
- เทคโนโลยีทั้งหมดที่ได้นำเสนอไปเมื่อสักครู่ ก็เปรียบเสมือนเป็นทรัพยากรต่างๆ ที่สามารถนํามาใช้งานร่วมกันทั่วทั้งองค์กรและประกอบขึ้นเป็น “ (information technology infrastructure)”เทคโนโลยีสารสนเทศที่เป็นโครงสร้างหลักขององค์กร ทําหน้าที่เป็นรากฐานที่สําคัญ (foundation or platform) ที่ซึ่งองค์กรธุรกิจสามารถสร้างระบบสารสนเทศของตนเองขึ้นมาใช้งานได้ แต่จะต้องให้ความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งในการออกแบบและบริหารจัดการ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น